ภาวะหลั่งเร็ว (Premature Ejaculation)

ภาวะหลั่งเร็ว

ภาวะหลั่งเร็ว หมายถึง ภาวะที่ไม่สามารถควบคุมการหลั่งให้นานพอที่อีกฝ่ายจะถึงจุดสุดยอดได้ ซึ่งโดยตามธรรมชาตินั้น เมื่อมีเพศสัมพันธ์กัน ฝ่ายชายสามารถถึงจุดสุดยอดได้ ในเวลาประมาณ 2-3 นาที ซึ่งเร็วกว่าฝ่ายหญิงที่ต้องใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยการหลั่งเร็ว มีลักษณะ 3 อย่างคือ หลั่งก่อนการสอดใส่ กำลังจะสอดใส่ และหลังการสอดใส่แล้ว การหลั่งเร็วถือเป็นความผิดปกติทางเพศประเภทหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ทำให้คู่รักไม่สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางเพศได้อย่างเต็มที่ การหลั่งเร็วส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์เป็นอย่างมาก ในมุมผู้ชายที่มีภาวะหลั่งเร็วจะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ บางครั้งถึงกับหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ ในแง่มุมของผู้หญิง แทบจะไม่มีความพึงพอใจในการมีเซ็กส์ และกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ผู้หญิงหลายคนรู้สึกหงุดหงิดเนื่องจากภาวะหลั่งเร็ว ทำให้รู้สึกเหมือนกับฝ่ายชายเห็นแก่ตัว เพราะถึงจุดสุดยอดอยู่เพียงฝ่ายเดียว

สาเหตุของการหลั่งเร็ว

สาเหตุส่วนใหญ่ที่ก่อให้เกิดภาวการณ์หลั่งเร็ว ยังไม่เป็นที่แน่ชัด เนื่องจากขึ้นอยู่กับประสบการณ์ทางเพศ และอายุ ซึ่งเพศชายมีพัฒนาการที่จะค่อยๆเรียนรู้ ในการแก้ไขปัญหาชลอการหลั่งเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น และยังมีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับภาวะหลั่งเร็ว แต่ส่วนใหญ่ยังมีข้อบกพร่อง เช่น การช่วยตัวเองอย่างรีบเร่งในช่วงวัยรุ่น, กรรมพันธุ์, การมีเพศสัมพันธ์ที่น้อยเกินไป ,การหลั่งเร็วเมื่อมีคู่นอนใหม่ หรือหลังจากว่างเว้นเป็นเวลานาน

โดยหลักๆแล้วสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

1.สาเหตุทางด้านร่างกาย อาการหลั่งเร็วส่วนใหญ่จะมีสาเหตุ คือ โรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง โรคอ้วน หรือโรคพาร์กินสัน และภาวะหลั่งเร็วเป็นเพียงปลายเหตุ นอกจากนั้นยังสามารถเกิดได้จากผลข้างเคียงจากการรักษาโรคหรือการใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคซึมเศร้า ยาแก้แพ้ รวมไปถึงการสูบบุหรี่ ดื่มเหล้าหนัก ร่างกายอ่อนล้า หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับ เป็นต้น

2.สาเหตุทางด้านจิตใจ เนื่องจากสมองมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้เกิด การแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย หรือกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศ ภาวะทางจิตใจบางอย่างที่ไปขัดขวางหรือส่งผลด้านลบต่ออารมณ์ทางเพศ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า หรือภาวะสุขภาพจิตอื่น ๆ รวมไปถึงปัญหาความขัดแย้งหรือปัญหาความสัมพันธ์อาจส่งผลต่อการหลั่งเร็วได้

อย่างไรที่เรียกว่ามีภาวะ หลั่งเร็ว ?

มีการหลั่งทุกครั้ง หรือเกือบทุกครั้ง หลังมีการสอดใส่ได้ภายใน 1 นาที
ไม่สามารถชลอการหลั่ง หลังมีการสอดใส่ทุกครั้ง หรือเกือบทุกครั้ง
มีความรู้สึกลบหลังมีเพศสัมพันธ์ เช่น ความเครียด ความอาย หรือรู้สึกอยากหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์อีก

การรักษาอาการหลั่งเร็ว

การรักษาเบื้องต้นด้วยตนเอง
- การช่วยตัวเอง 1-2 ชั่วโมงก่อนมีเพศสัมพันธ์จริง
- เบี่ยงเบนความสนใจขณะมีเพศสัมพันธ์ มีรายงานว่าได้ผลเพียงเล็กน้อย
- การใช้เจลยาชา แต่เป็นวิธีที่ไม่ค่อยแนะนำ เนี่องจากอาจทำให้ฝ่ายหญิงมีอาการชาร่วมด้วย และอาจทำให้มีอาการคัน, แดง, และเจ็บ
- การสวมถุงยางอนามัย ชนิดพิเศษ ที่ไม่มีการระคายเคืองช่องคลอด และผิวด้านในของถุงยางฉาบไปด้วยยาชา
- การทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมีเพศสัมพันธ์ พบว่าในบางคนอาจมีส่วนช่วยในการชลอการหลั่งได้ แต่เป็นวิธีที่ไม่แนะนำ เนื่องจากการทานแอลกอฮอล์ต่อเนื่องมีผลกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
- ใช้เทคนิคการบีบ ( The squeeze technique)
การรักษาทางการแพทย์
- การใช้ยากลุ่มยาที่ชื่อว่า PDE-5 inhibitors หรือ ไวอากร้า ( Viagra ) ซึ่งจะได้ผลดีที่สุดกับคนที่มี ED ร่วมด้วย เช่น ยาซิลเดนาฟิล (ไวอากร้า) ยาทาดาลาฟิล (เซียลิส) และยาวาร์เดนาฟิล (เลวิตร้า) เป็นยาที่ใช้ในการบำบัดผู้ที่มีภาวะหลั่งเร็วหรือเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ยาจะออกฤทธิ์ชั่วคราวในการช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตของอวัยวะเพศชาย โดยรับประทาน 1 เม็ด ภายใน 24 ชั่วโมง พบว่า 2 ใน 3 ของผู้ชายที่ใช้ยานี้มีการแข็งตัวของอวัยวะเพศที่ดีขึ้น แต่ต้องมีการเล้าโลมก่อนใช้ยาจึงจะเห็นผลดี ซึ่งยากลุ่มนี้จะช่วยให้อวัยวะคงสภาพการแข็งตัวทำให้เกิดการหลั่งที่ช้าขึ้น